ดีป้า เปิดแผนลุย ปี65 เล็งเปิดร้านสะดวกซื้อดิจิทัล

เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

ดีป้า เผยแผนการดำเนินงาน ประจำปี 2565 ดันบัญชีบริการดิจิทัล หนุนรัฐ-เอกชนเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลได้โดยสะดวก ลุยจัดทำระบบจัดเก็บและบริหารข้อมูลเมืองใน 15 เมืองอัจฉริยะแรกที่ได้รับการประกาศแล้ว พร้อมปั้นเพิ่ม 150 Smart City Ambassadors เล็งเปิดคอนเซ็ปต์ร้านสะดวกซื้อบริการดิจิทัล ในชื่อ d-station นำร่อง 8 จังหวัด

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยแผนการดำเนินงาน ประจำปี 2565 ในทุกพันธกิจ เริ่มจากการเดินหน้าในเรื่องของ “บัญชีบริการดิจิทัล” โดยให้ดิจิทัลสตาร์ทอัพ รวมถึงผู้ประกอบการด้านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Software) และผู้ให้บริการโปรแกรมบริการ พร้อมกันนี้ บัญชีบริการดิจิทัลยังให้บริการภาคเอกชน และสามารถนำใบเสร็จมายกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 200% ขณะที่ภาคประชาชนสามารถเลือกซื้อเทคโนโลยีและบริการดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์ม TECHHUNT บน LINE Official Account: depaThailand อีกหนึ่งช่องทางในการค้นหาโซลูชัน เพื่อยกระดับธุรกิจ แก้ไข Pain Point ได้อย่างสะดวกและตรงจุด

“ดีป้า คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลขึ้นทะเบียนในบัญชีบริการดิจิทัล เพิ่มเฉลี่ย 500 รายการในปี 2565 พร้อมตั้งเป้าสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ บัญชีบริการดิจิทัลผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และจะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาฯต่อไป”ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว

ส่วนแผนการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) นั้น ดีป้าจะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาระบบจัดเก็บและบริหารข้อมูลเมือง (City Data Platform) ใน 15 เมืองที่ได้รับการประกาศรับรองเป็นพื้นที่เมืองอัจฉริยะ โดยการออกแบบจัดทำ Data Catalog ของจังหวัด การจัดทำระบบเชื่อมโยงข้อมูล และหยิบยกจังหวัดที่มีความพร้อมเพื่อนำข้อมูลเมืองมาแปลงสู่ระบบบริการของพื้นที่ อาทิ การติดต่อสื่อสารสู่ภาคประชาชน เช่น การเตือนภัย เหตุด่วน เหตุร้าย เหตุอาชญากรรม ฯลฯ

ทั้งนี้ ดีป้า ยังมีแผนที่จะขยายผลโครงการ Smart City Ambassador โดยเปิดรับสมัครคนรุ่นใหม่ที่มีความสนใจร่วมพัฒนาท้องถิ่นของตนเองสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะน่าอยู่เพิ่มเติม 150 คน ใน 150 พื้นที่จาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ (ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้) เพื่อเป็นที่ปรึกษาของพื้นที่ ช่วยสร้างความเข้าใจในเรื่องนโยบายและดิจิทัลโซลูชันให้กับหน่วยงานรัฐ เอกชน และประชาชนในท้องถิ่น ขับเคลื่อนโครงการเมืองอัจฉริยะน่าอยู่ในพื้นที่ พร้อมกันนี้ ดีป้า จะเดินหน้าประกาศรับรองพื้นที่เมืองอัจฉริยะเพิ่มอีกไม่น้อยกว่า 10 พื้นที่ในปี 2565

ดร.ณัฐพล กล่าวต่อว่า ดีป้า จะเข้าไปสนับสนุนดิจิทัลสตาร์ทอัพที่ได้รับการลงทุนจากบริษัทเงินร่วมลงทุน ที่เป็นเครือข่ายพันธมิตรของ ดีป้า ในลักษณะของการร่วมลงทุน ภายใต้โครงการ dVenture โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในดิจิทัลสตาร์ทอัพมากขึ้น อีกทั้งเป็นการช่วยส่งเสริมให้ดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล

“และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลได้อย่างเข้าใจ ดีป้า วางแผนที่จะเปิด “ร้านสะดวกซื้อบริการดิจิทัล” ในชื่อ d-station เริ่มต้นใน 8 จังหวัดนำร่อง โดยการสรรหาคนรุ่นใหม่มาทำหน้าที่เป็นผู้ขายผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลจากเครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพและผู้ให้บริการดิจิทัลที่ขึ้นทะเบียนกับ ดีป้า ซึ่งจะสามารถเข้าถึงประชาชนที่สนใจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการในพื้นที่เมืองรองให้สามารถเลือกเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับการดำเนินธุรกิจของตนเอง ขณะเดียวกันยังเป็นการช่วยให้เกิดอาชีพใหม่ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในพื้นที่”

สุดท้าย คือ การร่วมมือกับ บริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด ดำเนินโครงการพัฒนาแพลตฟอร์ม National Delivery เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการในยุคชีวิตวิถีใหม่ ในชื่อ eatsHUB ด้วยอัตราส่วนแบ่งรายได้ (GP) เฉลี่ยต่ำสุด 8% เพื่อสนับสนุนการพัฒนาแพลตฟอร์มรับส่งอาหารสัญชาติไทย ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการดำเนินธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการร้าน สามารถสร้างฐานข้อมูลลูกค้าเป็นของตนเอง และช่วยสร้างอาชีพให้ผู้ว่างงานในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ

โดยขณะนี้ eatsHUB ได้รับการพัฒนาแล้วเสร็จ มีร้านค้าร่วมเป็นสมาชิกกับแพลตฟอร์มแล้วกว่า 8,000 ร้านค้า และพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในกรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ นครสวรรค์ พิษณุโลก นครศรีธรรมราช เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา ชลบุรี จันทบุรี ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี นครพนม และพระนครศรีอยุธยา ช่วงเดือนมกราคม 2565

“เราพร้อมทำงานเพื่ออนาคตของคนไทย และเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลไทยให้อยู่ในระดับชั้นนำของโลก ตามวิสัยทัศน์ We work smart every day to build a world-class digital economy and to help people perform better, think faster and live better.” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวทิ้งท้าย

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/business