ในยุคที่การแข่งขันทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทยทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ได้ประกาศความมุ่งมั่นในการยกระดับศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต สู่การเป็นแลนด์มาร์กระดับเวิลด์คลาสอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการขยายการลงทุนโครงการมิกซ์ยูสมูลค่ารวมกว่า 23,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับภูเก็ตในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับลักชัวรีและไลฟ์สไตล์ของเอเชีย
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมาว่า บริษัทกำลังเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จของเซ็นทรัล ภูเก็ต ซึ่งปัจจุบันถือเป็นศูนย์การค้าลักชัวรีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ตั้งอยู่นอกกรุงเทพมหานคร โดยมีพื้นที่รวมกว่า 400,000 ตารางเมตร ครอบคลุมทั้งโซน Floresta, Festival และโครงการที่อยู่อาศัย
แผนการพัฒนาล่าสุดของ CPN เกี่ยวข้องกับการขยายโซนลักชัวรีเพิ่มเติมอีกกว่า 20,000 ตารางเมตร ด้วยเงินลงทุนสูงถึง 3,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับมูลค่าการลงทุนเดิมแล้ว ทำให้โครงการมิกซ์ยูสโดยรวมมีมูลค่าเกินกว่า 23,000 ล้านบาท โดยเฟสแรกของการขยายตัวมีกำหนดเปิดให้บริการภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2569
ความสำเร็จที่ผ่านมาของเซ็นทรัล ภูเก็ต สะท้อนให้เห็นจากการดึงดูดแบรนด์ระดับโลกให้มาเปิดสาขาที่นี่ ล่าสุดได้ต้อนรับแบรนด์ชั้นนำอย่าง BVLGARI, PRADA, Alo และ COS ซึ่งเลือกเปิดสาขาแรกนอกกรุงเทพมหานครที่ภูเก็ต รวมถึง Orlebar Brown ที่เลือกเปิดสาขาแรกในประเทศไทยที่นี่ นอกจากนี้ ศูนย์การค้าแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของแบรนด์หรูอีกกว่า 45 แบรนด์ ซึ่งตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางลักชัวรีระดับโลกได้อย่างชัดเจน
ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้ง เซ็นทรัลพัฒนาได้นำเทคโนโลยี Data และ AI มาใช้ในการสร้าง Personalized Shopping Journey สำหรับลูกค้าแต่ละราย พร้อมทั้งพัฒนา Loyalty Program ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มพรีเมียมอย่างลึกซึ้ง ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของศูนย์การค้า
ปัจจุบัน เซ็นทรัล ภูเก็ต มีผู้ใช้บริการเฉลี่ยประมาณ 80,000 คนต่อวัน และคาดการณ์ว่าเมื่อการพัฒนาโซนใหม่แล้วเสร็จในปี 2569 จำนวนผู้ใช้บริการจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 100,000 คนต่อวัน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มทราฟฟิกให้กับศูนย์การค้าแล้ว ยังเป็นการขยายโอกาสให้กับร้านค้าไทยและผู้ประกอบการ SMEs ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง อันนำไปสู่การกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึงและยั่งยืน
ข้อมูลจากสำนักนายกรัฐมนตรีและสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า ในปี 2567 ภูเก็ตครองอันดับ 1 ในฐานะจังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงสุดของประเทศ ด้วยมูลค่ากว่า 490,000 ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวจากประเทศรัสเซีย จีน และอินเดียเป็นกลุ่มหลักที่เดินทางมาเยือนในปี 2568 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพอันสูงของภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยวที่สามารถดึงดูดนักเดินทางคุณภาพสูงได้ตลอดทั้งปี โดยไม่มีช่วง Low Season ที่ชัดเจน
แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาภูเก็ตจะยังไม่เท่ากับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ในปี 2562 แต่ที่น่าสนใจคือรายได้จากการท่องเที่ยวกลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ที่มีอัตราการเข้าพักของโรงแรมสูงถึง 85% ซึ่งบ่งชี้ว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาภูเก็ตในปัจจุบันเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและมีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนสูงกว่าในอดีต
การพัฒนาเซ็นทรัล ภูเก็ต สู่การเป็นแลนด์มาร์กระดับเวิลด์คลาสนี้ ไม่เพียงแต่จะสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดภูเก็ตโดยตรง แต่ยังมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจค้าปลีกของประเทศไทยโดยรวม โดยช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการช้อปปิ้งระดับโลก (World-Class Shopping Destination) ที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวกลุ่มลักชัวรีได้อย่างครบวงจร
นอกจากนี้ การขยายตัวของเซ็นทรัล ภูเก็ต ยังสร้างโอกาสในการจ้างงานและพัฒนาบุคลากรในท้องถิ่น โดยเฉพาะในภาคบริการและค้าปลีกที่ต้องการทักษะเฉพาะทางในการให้บริการลูกค้าระดับพรีเมียม ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานการบริการของภาคธุรกิจไทยให้ทัดเทียมระดับสากลในระยะยาว
การลงทุนขนาดใหญ่ครั้งนี้ของเซ็นทรัลพัฒนาสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพการเติบโตของภูเก็ตและประเทศไทย แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนในประเทศหลังจากวิกฤติโควิด-19
เมื่อแล้วเสร็จ เซ็นทรัล ภูเก็ต จะไม่เพียงแต่เป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดและหรูหราที่สุดในภูมิภาคภาคใต้ของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการช้อปปิ้งและไลฟ์สไตล์ที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งสามารถดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวในประเทศที่แสวงหาประสบการณ์ระดับพรีเมียม
ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เซ็นทรัลพัฒนาไม่เพียงแต่กำลังสร้างแลนด์มาร์กระดับโลกบนเกาะภูเก็ต แต่ยังกำลังมีส่วนร่วมในการเขียนบทใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและค้าปลีกของประเทศไทย ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต