นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีกระแสข่าว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ขอถอนร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. …. ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ย. 65) ภายหลัง ครม. เห็นชอบไปแล้วเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้ ว่า ไม่ได้ขัดข้อง อย่างที่บอกเป็นเพียงทางเลือก เป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับผู้ที่สนใจ แต่หากประชาชนยังมีข้อสงสัยก็ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ หากชัดเจนแล้วก็ดำเนินการ หากยังไม่ชัดเจนก็ต้องรอจนกว่าจะชัดเจน อย่างไรก็ดีปัจจุบันมีช่องทางอื่นตามสิทธิสำหรับการขอวีซ่า LTR เช่น การเช่า หรือการซื้อคอนโดมิเนียม 49%
“การเพิ่มเติมสิทธิขึ้นมาแล้วประชาชนไม่สบายใจ จะต้องถอนก็ว่ากันไป ใช้เวลาให้นาน เอาให้เป็นที่พอใจ เกิดความเข้าใจร่วมกัน เพราะเป็นเพียงหนึ่งทางเลือกเท่านั้นเอง ซึ่งเราอยากให้มีทางเลือกก็ดี แต่ถ้าทางเลือกก็ดีเหล่านี้ สร้างความไม่เข้าใจ สร้างความไม่สบายใจ ก็รอให้ประชาชนสบายใจ เข้าใจเป็นที่ทั่วกัน ก็เป็นประเด็นอ่อนไหว ก็เข้าใจความรู้สึกของประชาชนของคนที่อ่อนไหว ก็ไปปรับปรุงแก้ไขได้”
ส่วนประเด็นเป้าหมายดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ 4 กลุ่มมาพำนักในไทย 1 ล้านคน เพิ่มปริมาณการใช้จ่าย 1 ล้านล้านบาท เพิ่มการลงทุน 8 แสนล้านบาท สร้างรายได้จากการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 2.7 แสนล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปีจะสะดุดหรือไม่นั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ไม่สะดุดเป็นเพียงการเพิ่มทางเลือก
“ขอเพียงประชาชนเข้าใจ ถ้าประชาชนไม่เข้าใจ จำเป็นจะต้องทำความเข้าใจกันก็ต้องทำความเข้าใจ เรื่องอื่นก็ยังเดินหน้า ใช้ทางเลือกที่มีอยู่ เอาความเข้าใจของประชาชนเป็นที่ตั้ง”
ถามถึงการทำความเข้าใจกับนักลงทุนต่างชาติอย่างไร นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจ ซึ่งแรก ๆ เขาคงไม่ได้มาอยากได้ที่ดินทันที แต่เขาคงเอาทางเลือกไปชั่งน้ำหนักระหว่างประเทศไทยกับประเทศอื่น เรื่องอื่นไทยอาจจะรอง แต่บางเรื่องก็ต้องเพิ่ม เช่น ความสะอาด ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือความเป็นกลางทางคาร์บอนให้โดดเด่น เพื่อเป็นเครื่องมือในการดึงดูดคนต่างชาติ โดยไม่จำเป็นต้องเร่งรัดหาวิธีทางเลือกโดยเร็ว ต้องปรับแผนนิดหน่อย ซึ่งอยู่ในวิสัยที่สามารถทำได้